อีกครั้งกับโครงการ “ดนตรีบำบัด คืนคนดีสู่สังคม” กิจกรรมที่มีศิลปินของแกรมมี่ โกลด์ ไปเล่นดนตรี ร้องเพลง ทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ และพูดให้กำลังใจกับผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ พร้อมทั้งให้แง่คิดดีๆ เมื่อพ้นโทษออกมาจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่หวนกลับไปทำความผิดซ้ำอีก

สำหรับในเดือนแห่งความรัก เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 นี้ นำโดยศิลปิน ไผ่ พงศธร และ จา สิงห์ชัย พร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปสร้างความสนุกสนาน รวมทั้งหมด 7 เรือนจำด้วยกัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด, วันที่ 7 ก.พ. เรือนจำกลางสุรินทร์, วันที่ 24 ก.พ. เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์, วันที่ 25 ก.พ. เรือนจำกลางอุบลราชธานี, วันที่ 26 ก.พ. เรือนจำกลางขอนแก่น และปิดท้าย วันที่ 27 ก.พ. เรือนจำกลางอุดรธานี

ซึ่งทั้ง 2 ศิลปินหนุ่ม “ไผ่” และ “จา” ได้จัดกิจกรรมไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 และวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีท่านผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์ ได้ให้การต้อนรับศิลปินและทีมงานเป็นอย่างดี โดยกิจกรรมทั้ง 2 วันเต็มไปด้วยความสุขและอิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับกันเลยทีเดียว เพราะหลังจากท่านผู้บัญชาการเรือนจำได้กล่าวเปิดงานกิจกรรม “ดนตรีบำบัด คืนคนดีสู่สังคม” ทุกคนที่อยู่ภายในงานต่างก็สนุกไปกับเล่นเกม แจกรางวัล พร้อมทั้งได้ม่วนไปกับความบันเทิงจากศิลปินอีกด้วย

โดยกิจกรรมครั้งนี้นอกจาก “ไผ่ พงศธร” และ “จา สิงห์ชัย” แล้ว ยังมีศิลปินร่วมค่ายอย่าง “หนามเตย ไทดอลมิวสิค” มาร่วมสร้างความสนุกสนานด้วยอีกหนึ่งคน งานนี้เปิดตัวกันด้วยเพลงแนวโจ๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง คนบ้านเดียวกัน, เอาที่สบายใจ, สัญญาเดือนหก, โสดอีกแล้ว รวมทั้งเพลงเพราะๆอย่าง ไม่มีข้อแม้ตั้งแต่เริ่มต้น, มาเด้อขวัญอ้าย, ชอบแบบนี้, เป็นต้น ทำเอาผู้ต้องขังทั้งร้องตามเต้นตามกันอย่างมีความสุข ก่อนจะตบท้ายแบบซึ้งๆด้วยเพลง “แม่” ที่ทำเอาผู้ต้องขังถึงกับน้ำตาคลอกันเลยทีเดียว

ไผ่ พงศธร กล่าวว่า “กิจกรรม ดนตรีบำบัด คืนคนดีสู่สังคม ผมตั้งใจว่าโครงการนี้จะทำทั่วประเทศครับ โดยจะนำเพลงเพราะๆ ม่วนๆ สนุกแบบโจ๊ะๆ มาให้ได้คลายเครียดกัน พวกเราก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้พี่ๆน้องๆ ผู้ต้องขังทุกคนได้หันกลับมาทำความดี อาจจะได้ออกไปสู่อิสรภาพไวๆ และในอนาคตหากได้ออกไปแล้ว ก็ขอให้สังคมหยิบยื่นมิตรภาพและโอกาสให้กับพวกเขา เพื่อที่จะเป็นแรงใจให้พวกเขาได้ทำความดี และเป็นคนดีเพื่อสังคมต่อไปครับ”